มองโกเลียนอก (Outer Mongolia)
มองโกเลียนอก (Outer Mongolia) ดินแดนแห่งตำนานทะเลทรายโกบี ของชนเผ่านักรบบนหลังม้า
“เจงกีสข่าน” วีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่
เยือนดินแดนแห่งอดีตจักรพรรดิ์ เจงกิสข่าน นักรบบนหลังม้าผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ครอบครองดินแดนครอบคลุมพื้นที่ที่กว้างใหญ่สุดขอบฟ้า 1,260 กิโลเมตร จากเหนือจรดใต้ 2,400 กิโลเมตร จากตะวันออกจรดตะวันตก ในเขตทุ่งหญ้าและทะเลทรายบนเขตที่ราบสูงกว่า 1,000 เมตรขึ้นไป ดินแดนแห่งนี้ เดิมเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชนเผ่าเร่ร่อน ผู้ดำรงชีพบนพื้นฐานของการเลี้ยงสัตว์ และการเพาะปลูก พร้อมสัมผัสวิถีชีวิตขนานแท้ของชนเผ่ามองโกเลีย ด้วยประสบการณ์การอยู่อาศัยนอนในกระโจมแบบดั้งเดิมขนานแท้ ของชนเผ่ามองโกเลีย
เยือนเมืองหลวงแห่งมองโกเลีย อูลันบาตอร์ เมืองที่รูปแบบสถาปัตยกรรมต่างๆ รวมทั้งวิถีชีวิตของผู้คน ได้รับอิทธิพลจากสองประเทศมหาอำนาจอันยิ่งใหญ่ คือ รัสเซีย และจีน
เมื่อไปมองโกเลีย สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด ได้แก่
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งชาติ (National History Museum)
เป็นสถานที่เก็บรวบรวมสิ่งของวัตถุโบราณต่างๆ และหลักฐานทางประวัติศาสตร์ในยุคต่างๆ ของชาติพันธุ์มองโกเลียที่บ่งบอกถึงเรื่องราวความเป็นอยู่ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ประวัติศาสตร์ความเป็นมาของประเทศชาติ ขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมต่างๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นได้จากเครื่องเล่น เครื่องดนตรีและเครื่องแต่งกายที่จัดแสดงไว้ รวมถึงสิ่งที่น่าสนใจมากที่สุดท่านไม่ควรพลาดชมในพิพิธภัณฑ์คือมุมเรื่องราวของอดีตจักรพรรดิ์เจงกิสข่าน ซึ่งจัดแสดงไว้ให้เรียนรู้และเข้าใจง่ายเป็นอย่างดี
เมืองอูลันบาตาร์
เมืองหลวงยุคใหม่ของประเทศมองโกเลียที่ถูกสถาปนาให้เป็นศูนย์กลางทั้งทางด้านการเมืองการปกครองและด้านพุทธศาสนา เมืองแห่งนี้ตั้งอยู่ในระดับความสูง 1,310 เมตรจากระดับน้ำทะเล ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงที่หนาวเย็นที่สุดในโลก!
แม่น้ำทูล (Tuul River)
เป็นแม่น้ำสายหลักที่สำคัญไหลผ่านเมืองหลวงสายสำคัญของมองโกเลีย
จัตุรัสซุคบาทาร์ (Sukhbaatar Square)
หรือในชื่อเรียกใหม่ว่า จัตุรัสเจงกิสข่าน (Chinggis Khan Square) จัตุรัสใหญ่ใจกลางเมืองหลวง เป็นเสมือนศูนย์กลางของมองโกเลีย ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นของซุคบาทาร์ ผู้ประกาศอิสรภาพแก่มองโกเลียในปี ค.ศ. 1921 และเป็นที่ตั้งของรัฐสภาของประเทศมองโกเลีย โดยรอบของจัตุรัสนี้เป็นที่ตั้งของอาคารเก่าแก่สไตล์สหภาพโซเวียตและอาคารตึกสูงระฟ้าสมัยใหม่ที่บ่งบอกถึงความเป็นมาของชาติในอดีตจนถึงปัจจุบันผ่านบริบทต่างๆเหล่านี้ที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา
วัดกานดาน ( Gandan Monastery )
เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดของประเทศและถือว่าเป็นวัดสำคัญของเมืองอูลันบาตาร์ เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวพุทธในประเทศมองโกเลีย สร้างโดยท่านข่านโบกด์ในปีค.ศ. 1835 ภายในวิหารใหญ่ เป็นที่ประดิษฐานองค์พระอวโลกิเตศวรซึ่งสูงถึง 26.5 เมตรอันเป็นที่ศรัทธาของชาวพุทธอย่างมาก
พระราชวังฤดูหนาวของข่านโบกด์ (Winter Palace of Bogd Khaan)
เป็นพระราชวังของข่าน องค์สุดท้ายแห่งมองโกเลียที่ไม่ถูกทำลายลงโดยรัสเซีย ปัจจุบันถูกใช้เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงสิ่งล้ำค่าต่างๆเช่น เครื่องราชบรรณาการที่ถูกส่งมาจากประเทศต่างๆ และพระพุทธรูปแนววัชรยานหลากหลายองค์
อนุสรณ์สถานแห่งการต่อสู้ไซซาน ( Zaisan Memory Hill )
ไซซานฮิลล์ คือจุดชมวิวเมืองหลวงอูลานบาตอร์ที่อยู่ทางตอนใต้ของเมืองสร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงทหารที่เสียชีวิตในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ข้างบนเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเมืองอูลันบาตาร์ได้ทั้งเมืองอย่างสวยงาม
อุทยานแห่งชาติเทอเรลจ์ (Terelj National Park)
อุทยานแห่งชาติที่มีชื่ออีกแห่งหนึ่ง ชมหินเต่าและหินที่มีรูปร่างแปลกตา ตลอดจนถ้ำลึกลับ ท่านสามารถเดินชมธรรมชาติสูดอากาศบริสุทธิ์เสมือนราวกับว่ากำลังเดินอยู่บนเส้นทางแสนสวยงามปูพรมด้วยดอกไม้สีขาวสะอาดตา (หากเป็นฤดูหนาวช่วง ต.ค.-เม.ย. จะเต็มไปด้วยหิมะขาวโพลน)
ขี่ม้ามองโกล พลาดไม่ได้เลยจริงๆกับกิจกรรมประจำท้องถิ่นที่หาไม่ได้จากที่อื่น ม้ามองโกล หรือ ม้าป่าทาคิ ปัจจุบันมีเหลือเพียง 200 ตัวเท่านั้น
วัดแห่งการปฏิบัติสมาธิบนยอดเขา (Abayal Monastery Temple)
ระหว่างทางเดินขึ้น จะได้ข้อคิดทางธรรมตลอดเส้นทาง เมื่อเดินขึ้นจนถึงยอดเขาบริเวณวัด สามารถชมวิวทิวทัศน์จากด้านบนที่สวยงามของธรรมชาติและทิวเขาที่รายรอบ
เยี่ยมชมบ้าน ครอบครัวชนเผ่าเร่ร่อน (Local Nomad Family Visit)
ชมความเป็นอยู่ของครอบครัวชนเผ่าเร่ร่อนที่เลี้ยงม้า วัว เพื่อดำรงชีพ ได้แลกเปลี่ยนพูดคุยเกี่ยวกับประสบการณ์ชีวิตและเรียนรู้ถึงวิถีชีวิตและเห็นสภาพความเป็นอยู่แท้จริงของชาวมองโกลและมุมมองในการใช้ชีวิตของเขาเหล่านั้น
อนุสาวรีย์เจงกิสข่านนักรบบนหลังม้า ตั้งสง่าอยู่อย่างโดดเด่น อาคารใต้อนุสาวรีย์ของท่านภายในเป็นที่จัดแสดงเรื่องราวและอัตชีวประวัติของท่านเจงกิสข่านไว้อย่างน่าสนใจ อีกทั้งสามารถขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์โดยรอบในบริเวณด้านบนของอนุสาวรีย์อย่างใกล้ชิดได้อีกด้วย